หลังจากต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ล่าสุด เจ้าหญิงมาโกะ และ แฟนหนุ่ม ก็ได้เข้าพิธีแต่งงานแล้ว พร้อมสละฐานันดรศักดิ์ตามกฎมณเฑียรบาล เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า เจ้าหญิงมาโกะ พระธิดาในมกุฎราชกุมารอากิชิโนะ และพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ได้เข้าพิธีวิวาห์กับ นาย เคย์ โคโมรุ แฟนหนุ่ม ในวันนี้ หลังจากที่ทั้งสองต้องเผชิญกับข่าวฉาวและเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่ปี 2560
โดย สำนักพระราชวัง เปิดเผยว่าพิธีการเป็นไปอย่างราบเรียบ
ต่างกับ เจ้าหญิงอายาโกะ ที่แต่งงานกับสามัญชนเช่นเดียวกัน โดยเจ้าหญิงอายาโกะได้สวมชุดกิมิโนสีแดง ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายของขุนนางหญิงตามำธรรมเนียมของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ทางสำนักพระราชวังยังระบุอีกว่า เจ้าหญิงมาโกะและแฟนหนุ่มได้จดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เส้นทางการแต่งงานของทั้งสองเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นาย โคมุโระตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากปัญหาทางการเงินของมารดา ซึ่งมีประเด็นติดค้างหนี้ราวล้านบาท กับอดีตคู่หมั้น โดยมีการอ้างว่าเงินจำนวนนั้นถูกใช้เป็นค่าเล่าเรียนของนายโคมุโระ ซึ่งฝ่ายชายได้มีการออกแถลงการณ์ชี้แจงไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และยืนยันว่าต้องการแต่งงานกับเจ้าหญิงมาโกะเช่นเดิม ซึ่งจากประเด็นนี้ทำให้พิธีวิวาห์ถูกเลื่อนออกไปนานสองปี
นอกจากนี้เจ้าหญิงปฏิเสธเงินอุดหนุนการแต่งงานสำหรับเชื้อพระวงศ์หญิงราว 44 ล้านบาท และปฏิเสธที่จะจัดงานพิธีวิวาห์ตามราชประเพณี ซึ่งถือเป็นสมาชิกราชวงศ์พระองค์แรกนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่ปฏิเสธการเข้าพิธีวิวาห์ตามราชประเพณี
โดยเจ้าหญิงมาโกะจำเป็นต้องสละฐานันดรศักดิ์ ตามกฎมณเฑียรบาลปัจจุบันที่ระบุว่า เชื้อพระวงศ์หญิงหากแต่งงานกับสามัญชนจะต้องมีการสละฐานันดรศักดิ์
ทั้งนี้ชาวเน็ตได้ออกมาชื่นชมและออกมารีวิววิดีโอของนาย ชางซู เป็นจำนวนมาก และทำรายได้ต่อปีมากกว่า 8.9 ล้านบาท โดยนาย ชางซู กล่าวว่า เขาทราบดีว่าคนดูมากกว่าครึ่งเข้าชมวิดีโอเขา เพราะมองว่าเป็นเรื่องตลก แต่เขาคิดว่าแม้ทุกคนจะไม่ได้อยากเรียนเลข แต่การที่พวกเขาเข้าชม ทำให้พวกเขารู้ว่าอย่างน้อยๆก็มีครูสอนเลขบนพอร์นฮับ
กองทัพซูดาน ได้เข้าควบคุมตัวและจับกุม นายกซูดาน พร้อมกับรัฐมนตรีระดับสูงอีกหลายคน นักข่าวเผยเน็ตถูกจำกัดเส้นทางเมืองหลวงถูกตัด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่าโดยอ้างอิงจากสื่อในประเทศซาอุดิอาราเบียว่า กองทัพซูดานได้เข้าควบคุมตัวพร้อมควบคุมตัวนาย อับดัลลาห์ ฮัมด็อค นายกรัฐมนตรีประเทศซูดานให้อยู่ในบ้านพักของตนเอง และยังได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนในประเทศด้วย
โดยสำนักข่าวหลายแห่งต่างได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า รัฐมนตรีหลายคนของรัฐบาลนาย ฮัมด็อค ถูกควบคุมตัว เบื้องต้นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูล, ผู้ว่ากรุงคาร์ทูม เมืองหลวงซูดาน ถูกจับกุมเช่นเดียวกัน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ระบุว่าการติดต่อถูกจำกัดในประเทศ และมีทหารจำนวนมากยืนปิดเส้นทางทุกเส้นที่มุ่งไปสู่กรุงคาร์ทูม ซึ่งเป็นสถานที่ทำเนียบของประธานาธิบดีและสำนักงานของนายกรัฐมนตรีตั้งอยู่
ด้านกองทัพยงไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้
สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศซูดานตึงเครียดหลังจากที่ทางกองทัพก่อปฏิวัติไม่สำเร็จเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประชาชนและกองทัพต่างให้คำสัญญาจะแบ่งอำนาจกัน หลังจากที่ประชาชนซูดานรวมพลังและโค่นล้ม อุมัร อัลบะชีร ผู้นำที่ปกครองซูดานตั้งแต่ปี 2536 ได้สำเร็จ
เดือด! ทหาร เปิดฉากยิง ปชช. หลังชุมนุมต้าน รัฐประหารซูดาน
สถานการณ์ทางการเมืองของซูดานยังร้อนระอุต่อเนื่อง หลัง ประชาชนถูกยิงขณะชุมนุมต้าน รัฐประหารซูดาน หลังนายกฯถูกจับกุมเมื่อช่วงเช้ามืด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า กองทัพซูดาน ได้เปิดฉากยิงประชาชนที่รวมตัวกันเพื่อคัดค้านการก่อรัฐประหาร ในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงซูดาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้กองทัพได้เข้าควบคุมตัวนาย อับดัลลาห์ ฮัมด็อค นายกรัฐมนตรีซูดาน และรัฐมนตรีหลายคน พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา
เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงครั้งนี้แล้ว 7 ศพ และได้รับบาดเจ็บกว่า 140 ราย โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า กองทัพเริ่มต้นจากการยิงระเบิดมือที่ใช้ก่อกวนฝูงชน ก่อนจะใช้กระสุนจริงในเวลาต่อมา
สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศซูดานตึงเครียดหลังจากที่ทางกองทัพก่อปฏิวัติไม่สำเร็จเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประชาชนและกองทัพต่างให้คำสัญญาจะแบ่งอำนาจกัน หลังจากที่ประชาชนซูดานรวมพลังและโค่นล้ม อุมัร อัลบะชีร ผู้นำที่ปกครองซูดานตั้งแต่ปี 2536 ได้สำเร็จ
ซึ่งในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมามีรายงานที่ไปในทิศทางเดียวกันว่า ว่าการติดต่อถูกจำกัดในประเทศ และมีทหารจำนวนมากยืนปิดเส้นทางทุกเส้นที่มุ่งไปสู่กรุงคาร์ทูม ซึ่งเป็นสถานที่ทำเนียบของประธานาธิบดีและสำนักงานของนายกรัฐมนตรีตั้งอยู่
ทั้งหมดนี้ก็เป็น ประวัติ ลิซ ทรัสส์ ที่ทีมงานได้นำมาให้ผู้อ่านรู้กัน สุดท้ายนี้ก็คงต้องขอเอาใจช่วยให้นายกอังกฤษสามารถแก้ไขวิกฤติที่กำลังจะขึ้นให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนในครั้งหน้าทีมงานจะนำประวัติของใครมาฝากกันอีกบ้างก็รอติดตามชมได้ที่เดอะไทยเกอร์เลยครับ.
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง